ผู้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ :
นายอรุณ
คาน
คนดีศรีกรมบัญชีกลาง :
ข้าราชการส่วนกลางดีเด่น
ปี พ.ศ. ๒๕๕๐
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง : นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ
หน่วยงาน : สถาบันพัฒนาบุคลากรด้านการคลังและบัญชีภาครัฐ
ความรู้และประสบการณ์ที่แบ่งปัน : การใช้ทัศนคติที่ดีเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง
จากหนังสือเรื่อง
: WHO MOVED MY CHEESE?
(ใครเอาเนยแข็งของฉันไป) เป็นที่กล่าวถึงในบ้านเรากว่าห้าปีก่อน ของนายแพทย์สเป็นเซอร์
จอห์สัน กล่าวถึงการปรับตัวตัวกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิต เรื่องมีอยู่ว่า
มีคนแคระและหนูจิ๋วรวม
4 ชีวิต วิ่งวนอยู่ในเขาวงกตซึ่งสลับซับซ้อนแห่งหนึ่ง
เพื่อแสะหาเนยแข็งอันเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต ในนี้มีสองชีวิตเป็นหนู ตัวหนึ่งชื่อ
สนิฟฟ์ กับ สเคอร์รี่ อีกสองชีวิตเป็นมนุษย์แคระชื่อ เฮ็ม กับ ฮอว์
ทั้งสี่ชีวิตใช้เวลาในแต่ละวันวิ่งหาเนยแข็งในเขาวงกตนั้น เจ้าหนูสนิฟฟ์ และ สเคอร์รี่ ใช้วิธีลองผิดลองถูกไฟเรื่อยๆ
โดยใช้จมูกเป็นเครื่องนำทาง พวกมันจะจำทางที่ไม่มีเนยแข็งไว้
แล้ววิ่งไปทางอื่นจนถูกทาง ส่วนคนแคระเฮ็ม กับ ฮอว์
ก็ใช้ความรู้และประสบการณ์ในอดีตเข้าช่วย ในที่สุดทั้งสี่ชีวิต
ได้พบกับคลังเนยแข็งขนาดใหญ่ ที่ดูเหมือนมีเนยเพียงพอที่ให้กินไปตลอดชีวิต พวกเขาได้พบแหล่งอาหารวิเศษที่แสนสะดวกสบายและไม่ต้องวิ่งตระเวนหาอีกต่อไป
เวลาผ่านไปจนมาถึงเช้าวันหนึ่ง ทั้งสี่ชีวิต ได้พบว่าเนยแข็งกำลังจะหมดไป
เจ้าสนิฟฟ์เห็นเช่นนั้นก็ไม่เสียเวลาวิเคราะห์ มันวิ่งหาเนยแข็งก้อนใหม่ทันที
ส่วนเจ้าสเคอร์รี่ เห็นเช่นนั้นก็วิ่งตามโดยไม่รอช้า
สนิฟฟ์ไปถึงไหนสเคอร์รี่ก็ไปที่นั่น ส่วนคนแคระเฮ็ม กับ ฮอว์
ไม่คาดมาก่อนว่าเนยแข็งจะหมดไป
เฮ็มถึงกับตีโพยตีพายกล่าวโทษเทวดาฟ้าดินว่าไม่ยุติธรรมกับเขา
แล้ววิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ว่าเนยแข็งจะกลับมาหาเขาอีก แต่ ฮอว์
ดูเหมือนจะยอมรับความจริงได้มากกว่า เขาเริ่มคิดว่าเขาควรทำการเปลี่ยนแปลง
เขาจึงชวนเฮ็ม ให้ออกไปหาเนยแข็งใหม่แบบที่หนูทั้งสองกำลังทำอยู่ ปรากฏว่า
เฮ็มไม่ยอมรับฟัง ฮอว์ จึงไปสู่เขาวงกตตามลำพัง
และแล้วเจ้าหนูทั้งสองก็ได้พบคลังเนยแข็งแห่งใหม่ที่ดีและใหญ่กว่าเดิม
ฮอว์แม้จะออกมาช้ากว่าเจ้าหนูทั้งสอง แต่ในที่สุดเขาก็ได้พบคลังเนยแข็งใหม่เช่นกัน
เขาจึงชวนแฮมให้ออกมาจากสถานที่ที่ไม่มีเนยแข็งเหลืออยู่ แต่แฮมกลับปฏิเสธ
ทั้งยังไม่ยอมรับเนยแข็งที่ ฮอว์ อุตส่าห์เอาไปฝาก ฮอว์จึงจำเป็นต้องปล่อยเพื่อนไว้เช่นนั้น
ระหว่างที่ฮอว์ ออกมาเผชิญโชคครั้งใหม่ ความคิดเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงไปที่ละน้อย
เขาสรุปสัจธรรมแห่งการเปลี่ยนแปลงไป โดยเขียนไว้บนกำแพงเป็นระยะๆ “ถ้าคุณไม่เปลี่ยนแปลง
คุณอาจสูญพันธ์” ฮอว์สุขสบายในคลังเนยแข็งแห่งใหม่ แต่ก็ยังคิดและหวังว่า
เฮ็มเพื่อนรักจะตามมาตามลายแทง และข้อคิดที่เขาบอกทางไว้ให้
แล้ววันหนึ่งฮอว์ก็ได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากทางเดินข้างนอก
นั่นอาจเป็นแฮมก็ได้ใครจะรู้
ทั้งสี่ชีวิตเป็นตัวแทนแห่งสัญชาตญาณ และความคิดในการตอบโต้ต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง สนิฟฟ์เป็นผู้ดมกลิ่นเปลี่ยนแปลงได้ก่อนใครจึงน่าออกไปก่อน
สเคอร์รี่ไม่คิดอะไรเลยวิ่งตามกระแสอย่างเดียว
เฮ็มเป็นผู้ปฏิเสธต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
โดยคิดว่าการเปลี่ยนแปลงจะปรากฏโฉมในทางเลว
มากมายกว่าเดิม
ส่วนฮอว์เป็นคนเรียนรู้และปรับตัวตามยุคสมัย เมื่อเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ในโลกแห่งการทำงานมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย
นิทานเรื่องนี้อาจให้แง่คิดที่เตือนให้ผู้คนมองเห็นการเปลี่ยนแปลงและเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด
ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกได้
วิธีที่ดีที่สุดกับการเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง คือ มองเห็นการเปลี่ยนแปลงและเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด (ตอนท้ายของนิทาน)
สิ่งที่ต้องมีประกระการแรกคือ มีทัศนคติที่ดีต่อการเปลี่ยน เห็นความเปลี่ยนแปลงเป็นโอกาส แต่การปรับเปลี่ยนทัศนคติไม่ใช่เรื่องง่าย
โดยพื้นฐานทัศนคติที่ไม่ดีเกิดจากเกิดจากการขาดความรู้ แล้วตามมาด้วยความกลัว
หากไม่แก้ไขนานๆเข้าก็กลายเป็นอคติ
การออกจากอคติจึงต้องเริ่มจากความกล้าหาญ กล้าหาญที่ต้องต่อสู้กับตัวเองเป็นอันดับแรก ตัวอย่างง่ายๆที่กระทบกับชีวิตการทำงาน
และการใช้ชีวิตประจำวันของเราคือการนำระบบ IT มาใช้ในชีวิตการทำงานหรือชีวิตประจำวัน ประการแรกควรเริ่มปรับความคิดก่อนว่า ITเป็นเพียงเครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
และทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้น มันคือผู้รับใช้เรา มันไม่น่ากลัวอย่างที่เราคิด
อย่ากลัวหรืออายที่จะถูกมองว่าเป็นคนไม่ทันสมัย หากไม่รู้ก็ต้องเรียนรู้
ซึ่งปัจจุบันมีช่องทางการเรียนรู้อย่างมากมาย เช่น ผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อนร่วมโดยเฉพาะผู้รวมงานรุ่นใหม่ หากนำมาใช้แล้วจะเห็นประโยชน์อย่างมหาศาล
อย่างไรก็ดี ควรใช้อย่างฉลาดและมีสติ รักษาความสมดุลของชีวิต
จะเห็นได้ว่าการเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงไม่ว่าในทางบวกหรือลบ
ต้องใช้ทัศนคติที่เป็นบวกเสมอ (ATTITUDE
Is A Little Ting THAT MAKE A BIG Differeance)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แบ่งปันเพิ่มเติม