21/4/57

การใช้ทัศนคติที่ดีเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง

ผู้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์  :  นายอรุณ คาน
คนดีศรีกรมบัญชีกลาง  :  ข้าราชการส่วนกลางดีเด่น ปี พ.ศ. ๒๕๕๐
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง  :  นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ

หน่วยงาน :  สถาบันพัฒนาบุคลากรด้านการคลังและบัญชีภาครัฐ
ความรู้และประสบการณ์ที่แบ่งปัน : การใช้ทัศนคติที่ดีเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง
                   จากหนังสือเรื่อง : WHO MOVED MY CHEESE? (ใครเอาเนยแข็งของฉันไป) เป็นที่กล่าวถึงในบ้านเรากว่าห้าปีก่อน ของนายแพทย์สเป็นเซอร์ จอห์สัน กล่าวถึงการปรับตัวตัวกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิต เรื่องมีอยู่ว่า
                        มีคนแคระและหนูจิ๋วรวม 4 ชีวิต วิ่งวนอยู่ในเขาวงกตซึ่งสลับซับซ้อนแห่งหนึ่ง เพื่อแสะหาเนยแข็งอันเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต ในนี้มีสองชีวิตเป็นหนู ตัวหนึ่งชื่อ สนิฟฟ์ กับ สเคอร์รี่ อีกสองชีวิตเป็นมนุษย์แคระชื่อ เฮ็ม กับ ฮอว์ ทั้งสี่ชีวิตใช้เวลาในแต่ละวันวิ่งหาเนยแข็งในเขาวงกตนั้น  เจ้าหนูสนิฟฟ์ และ สเคอร์รี่ ใช้วิธีลองผิดลองถูกไฟเรื่อยๆ โดยใช้จมูกเป็นเครื่องนำทาง พวกมันจะจำทางที่ไม่มีเนยแข็งไว้ แล้ววิ่งไปทางอื่นจนถูกทาง ส่วนคนแคระเฮ็ม กับ ฮอว์ ก็ใช้ความรู้และประสบการณ์ในอดีตเข้าช่วย ในที่สุดทั้งสี่ชีวิต ได้พบกับคลังเนยแข็งขนาดใหญ่ ที่ดูเหมือนมีเนยเพียงพอที่ให้กินไปตลอดชีวิต พวกเขาได้พบแหล่งอาหารวิเศษที่แสนสะดวกสบายและไม่ต้องวิ่งตระเวนหาอีกต่อไป เวลาผ่านไปจนมาถึงเช้าวันหนึ่ง ทั้งสี่ชีวิต ได้พบว่าเนยแข็งกำลังจะหมดไป เจ้าสนิฟฟ์เห็นเช่นนั้นก็ไม่เสียเวลาวิเคราะห์ มันวิ่งหาเนยแข็งก้อนใหม่ทันที ส่วนเจ้าสเคอร์รี่ เห็นเช่นนั้นก็วิ่งตามโดยไม่รอช้า สนิฟฟ์ไปถึงไหนสเคอร์รี่ก็ไปที่นั่น ส่วนคนแคระเฮ็ม กับ ฮอว์ ไม่คาดมาก่อนว่าเนยแข็งจะหมดไป เฮ็มถึงกับตีโพยตีพายกล่าวโทษเทวดาฟ้าดินว่าไม่ยุติธรรมกับเขา แล้ววิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ว่าเนยแข็งจะกลับมาหาเขาอีก แต่ ฮอว์ ดูเหมือนจะยอมรับความจริงได้มากกว่า เขาเริ่มคิดว่าเขาควรทำการเปลี่ยนแปลง เขาจึงชวนเฮ็ม ให้ออกไปหาเนยแข็งใหม่แบบที่หนูทั้งสองกำลังทำอยู่ ปรากฏว่า เฮ็มไม่ยอมรับฟัง ฮอว์ จึงไปสู่เขาวงกตตามลำพัง และแล้วเจ้าหนูทั้งสองก็ได้พบคลังเนยแข็งแห่งใหม่ที่ดีและใหญ่กว่าเดิม ฮอว์แม้จะออกมาช้ากว่าเจ้าหนูทั้งสอง แต่ในที่สุดเขาก็ได้พบคลังเนยแข็งใหม่เช่นกัน เขาจึงชวนแฮมให้ออกมาจากสถานที่ที่ไม่มีเนยแข็งเหลืออยู่ แต่แฮมกลับปฏิเสธ ทั้งยังไม่ยอมรับเนยแข็งที่ ฮอว์ อุตส่าห์เอาไปฝาก  ฮอว์จึงจำเป็นต้องปล่อยเพื่อนไว้เช่นนั้น ระหว่างที่ฮอว์ ออกมาเผชิญโชคครั้งใหม่ ความคิดเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงไปที่ละน้อย เขาสรุปสัจธรรมแห่งการเปลี่ยนแปลงไป โดยเขียนไว้บนกำแพงเป็นระยะๆ ถ้าคุณไม่เปลี่ยนแปลง คุณอาจสูญพันธ์ ฮอว์สุขสบายในคลังเนยแข็งแห่งใหม่ แต่ก็ยังคิดและหวังว่า เฮ็มเพื่อนรักจะตามมาตามลายแทง และข้อคิดที่เขาบอกทางไว้ให้ แล้ววันหนึ่งฮอว์ก็ได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากทางเดินข้างนอก นั่นอาจเป็นแฮมก็ได้ใครจะรู้  ทั้งสี่ชีวิตเป็นตัวแทนแห่งสัญชาตญาณ และความคิดในการตอบโต้ต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง  สนิฟฟ์เป็นผู้ดมกลิ่นเปลี่ยนแปลงได้ก่อนใครจึงน่าออกไปก่อน สเคอร์รี่ไม่คิดอะไรเลยวิ่งตามกระแสอย่างเดียว  เฮ็มเป็นผู้ปฏิเสธต่อต้านการเปลี่ยนแปลง โดยคิดว่าการเปลี่ยนแปลงจะปรากฏโฉมในทางเลว  มากมายกว่าเดิม  ส่วนฮอว์เป็นคนเรียนรู้และปรับตัวตามยุคสมัย เมื่อเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า  ในโลกแห่งการทำงานมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย นิทานเรื่องนี้อาจให้แง่คิดที่เตือนให้ผู้คนมองเห็นการเปลี่ยนแปลงและเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด                      
                                   
                        ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกได้ วิธีที่ดีที่สุดกับการเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง คือ มองเห็นการเปลี่ยนแปลงและเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด (ตอนท้ายของนิทาน) สิ่งที่ต้องมีประกระการแรกคือ มีทัศนคติที่ดีต่อการเปลี่ยน เห็นความเปลี่ยนแปลงเป็นโอกาส  แต่การปรับเปลี่ยนทัศนคติไม่ใช่เรื่องง่าย โดยพื้นฐานทัศนคติที่ไม่ดีเกิดจากเกิดจากการขาดความรู้ แล้วตามมาด้วยความกลัว หากไม่แก้ไขนานๆเข้าก็กลายเป็นอคติ  การออกจากอคติจึงต้องเริ่มจากความกล้าหาญ กล้าหาญที่ต้องต่อสู้กับตัวเองเป็นอันดับแรก  ตัวอย่างง่ายๆที่กระทบกับชีวิตการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวันของเราคือการนำระบบ IT มาใช้ในชีวิตการทำงานหรือชีวิตประจำวัน  ประการแรกควรเริ่มปรับความคิดก่อนว่า ITเป็นเพียงเครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้น มันคือผู้รับใช้เรา มันไม่น่ากลัวอย่างที่เราคิด อย่ากลัวหรืออายที่จะถูกมองว่าเป็นคนไม่ทันสมัย หากไม่รู้ก็ต้องเรียนรู้ ซึ่งปัจจุบันมีช่องทางการเรียนรู้อย่างมากมาย เช่น ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนร่วมโดยเฉพาะผู้รวมงานรุ่นใหม่ หากนำมาใช้แล้วจะเห็นประโยชน์อย่างมหาศาล อย่างไรก็ดี ควรใช้อย่างฉลาดและมีสติ รักษาความสมดุลของชีวิต
                        จะเห็นได้ว่าการเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงไม่ว่าในทางบวกหรือลบ ต้องใช้ทัศนคติที่เป็นบวกเสมอ (ATTITUDE Is A Little Ting THAT MAKE A BIG Differeance

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แบ่งปันเพิ่มเติม