ผู้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ :
นางสาวพัชชา
ปึงเจริญ
คนดีศรีกรมบัญชีกลาง :
ข้าราชการส่วนกลางดีเด่น
ปี พ.ศ. ๒๕๔๕
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง : นิติกรชำนาญการ
หน่วยงาน : สำนักมาตรฐานค่าตอบแทนและสวัสดิการ
ความรู้และประสบการณ์ที่แบ่งปัน : เทคนิคการสร้างแรงจูงใจในชีวิต
ถ้าวันไหนเรามีแรงจูงใจหรือกำลังใจในชีวิต
น้อยกว่าปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นหรือกำลังจะเกิดขึ้น วันนั้นอาการที่แสดงออกมาคือ เบื่อ
เซ็ง ขี้เกียจ ท้อแท้ ฯลฯ เปรียบเหมือนกับการที่เราขับรถยนต์ขึ้นภูเขา ถ้าวันไหนต้องขับขึ้นภูเขาที่สูงชันมากเกินกว่ากำลังเครื่องยนต์ของเราจะสู้ได้
วันนั้น รถยนต์ของเราก็คงจะหยุดอยู่กับที่หรือไม่ก็ลื่นไถลตกลงมาสู่ที่ต่ำ ถ้าวันไหนเรามีแรงจูงใจหรือกำลังใจ
มากกว่าปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้น
วันนั้น อาการที่เราแสดงออกคือ สนุก ขยัน แรงฮึดเยอะ ไม่กลัว กล้าทำ กล้าลุย
กล้าเสี่ยง ฯลฯ เปรียบเสมือนกับการที่เราขับรถยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์แรงมากหรือเหมือนขับรถโฟวีลที่สามารถขับขึ้นภูเขา ลูกไหนก็ได้ ลุยกับสภาพถนนแบบไหนก็ได้
แรงจูงใจมีอยู่ในตัวคนเราอย่างไม่จำกัด แต่ข้อจำกัดอยู่ที่ใจของเราเองที่ไปจำกัดว่าเราไม่มี
เราไม่ไหว เราไม่สู้
เช่น เวลาตื่นนอนตอนเช้าถ้าวันไหนเรารู้สึกเบื่อ ท้อ ขี้เกียจ การที่จะลุกขึ้นออกจากเตียงยังยากเลย แทบจะไม่มีแรงต่อสู้กับแรงดึงดูดของเตียง แต่ถ้าวันไหนมีไฟกำลังไหม้บ้าน
(แรงผลักที่เกิดจากความกลัว) หรือ เราต้องไปขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวต่างประเทศ
(แรงดึงที่เกิดจากความอยาก) เราสามารถตื่นและลุกออกจากเตียงได้โดยไม่ต้องลังเล เราสามารถชนะแรงดึงดูดของเตียงนอนได้อย่างง่ายดาย
สิ่งเหล่านี้แสดงว่าในความเป็นจริงแล้ว ศักยภาพในตัวเรามีอยู่อย่างไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับว่าเรามีสิ่งกระตุ้น
(ความอยากและความกลัว) และเทคนิควิธีการ ในการฉุดดึงเอาแรงจูงใจออกใช้ได้มากน้อยเพียงใดเท่านั้น
เพื่อให้ชีวิตของเรามีแรงขับเคลื่อนที่มากพอและต่อเนื่อง
เทคนิคการสร้างแรงจูงใจจาก 2 แหล่งดังนี้
1. การสร้างแรงจูงใจ...จากเรื่องราวในอดีต
ชีวิตคนหนึ่งคน
คือ ภาพยนตร์หนึ่งเรื่องที่ถ่ายเก็บไว้ตั้งแต่เกิด แต่ไม่ค่อยมีใครนำมาเปิดใช้ในระหว่างทางของชีวิต
ส่วนใหญ่จะเปิดกันก็ต่อเมื่อเข้าสู่บั้นปลายของชีวิต เข้าข่ายที่ว่า “คนแก่ชอบเล่าเรื่องเก่า”
เพราะชีวิตของคนกลุ่มนี้ไม่มีอนาคตแล้ว พลังที่จะช่วยให้ชีวิตของเรายังคงอยู่ต่อไปได้คือกำลังใจจากเรื่องราวในอดีตที่รู้สึกภูมิใจ
เล่ากี่ครั้งกี่หนก็ไม่เคยเบื่อ (แต่คนฟังเบื่อไปหลายรอบแล้ว) ถ้าเรายังไม่แก่ ขอแนะนำว่าควรจะนำเอาเรื่องเก่าทั้งที่เป็นจุดด้อยและความภูมิใจในชีวิตที่ผ่านมา
มาสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง เมื่อไหร่ที่นึกถึงความยากลำบากในชีวิตที่ผ่านมาก็จะทำให้เราเกิดพลังที่จะขับเคลื่อนตัวเองให้หลุดพ้นจากสภาพที่เราเคยลำบากมาก่อน
ในขณะเดียวกันถ้าเรานึกถึงเรื่องที่เราภูมิใจ
อาจจะเป็นความสำเร็จในชีวิตที่ผ่าน ก็เท่ากับว่าเราได้ชาร์ตไฟให้กับตัวเองด้วยความภูมิใจในอดีตของตัวเราเอง
การสร้างแรงจูงใจจากอดีต ถือเป็นเทคนิคการสร้างแรงจูงใจแบบผลักดัน ให้ชีวิตเราเดินไปข้างหน้า ด้วยเรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว
เหมือนกับการที่เราเข็นรถยนต์ที่จอดอยู่จากด้านหลังของรถนั่นเอง ตัวอย่างเทคนิคการสร้างแรงจูงใจจากเรื่องราวในอดีต
1.ใครเบื่อพ่อแม่ขอให้นึกถึงตอนที่เราเจ็บไข้ไม่สบายตอนเด็กๆ ใครเป็นคนเฝ้าดูแลเอาใจใส่เราตลอดเวลา
2.ใครเบื่องานขอให้นึกถึงวันเริ่มงานวันแรก
3.ใครเบื่อสามีหรือภรรยาให้นึกถึงวันที่แต่งงาน
4.ใครเบื่อลูกให้นึกถึงวันที่คลอดลูกหรือไปรอหน้าห้องคลอด
5.ใครเบื่อคนรอบข้างให้นึกถึงวันที่เราเคยไปหลงป่าอยู่คนเดียว หรือวันที่เราต้องอยู่บ้านเดียว
6.ใครเบื่อตัวเองให้นึกถึงวันที่เราเคยให้คำปรึกษาผู้อื่น
2. การสร้างแรงจูงใจ...จากเรื่องราวในอนาคต
คนบางคน
ในบางเวลา เรื่องราวในอดีตอาจจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ไม่ได้ อาจจะเป็นเรื่องในอดีต มีแต่เรื่องที่ช่วยฉุดแรงจูงใจให้ต่ำลงไปอีก
จึงขอแนะนำให้ใช้เทคนิคสร้างแรงจูงใจโดยใช้เรื่องราว เหตุการณ์ ในอนาคตมาหลอกล่อหรือดึงดูดใจ
การสร้างแรงจูงใจในชีวิตเปรียบเสมือน การที่เราเข็นรถชีวิตที่จอดอยู่นิ่ง ๆ ถ้าไม่สามารถเข็นจากด้านหลังได้ ก็อาจจะต้องใช้วิธีการดึงจากข้างหน้า
หรือไม่ก็อาจจะต้องใช้ทั้งสองทางรวมกัน(ทั้งดึงและดัน)
สำหรับการสร้างแรงจูงใจจากเรื่องราวในอนาคต
เป็นการหลอกตัวเองให้วิ่งไล่จับความฝัน หลอกตัวเองให้กลัวการสูญเสียบางสิ่งบางอย่างในอนาคตไป เป็นการป้องกันคำว่า “เสียดาย” ในชีวิต เพราะคนหลายคน มักจะเกิดคำว่าเสียดายในหลายเรื่อง เนื่องจากมาคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว
วิธีการสร้างแรงจูงใจจากเรื่องราว ในอนาคตเป็นการซ้อมคิดหาคำว่าเสียดายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
แล้วนำเอาความรู้สึกเสียดายนั้นๆ มาใช้ในการสร้างแรงจูงใจ ตัวอย่างเทคนิคการสร้างแรงจูงใจจากเรื่องราวในอนาคต
-ใครเบื่อพ่อแม่ขอให้นึกถึงวันสุดท้ายที่ท่านจากเราไป
-ใครเบื่องานขอให้นึกถึงวันที่เขาจะให้เราออกจากงานหรือวันที่เราจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
-ใครเบื่อสามีหรือภรรยาให้นึกถึงวันที่เขาจากเราไป
-ใครเบื่อลูกให้นึกถึงวันที่ลูกประสบความสำเร็จ
-ใครเบื่อคนรอบข้างให้นึกถึงวันที่คนเหล่านั้นมาร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเรา
-ใครเบื่อตัวเองให้นึกถึงวันที่เราจะประสบความสำเร็จ
สรุป
แรงจูงใจไม่ต้องไปซื้อหาหรือหยิบยืมใครที่ไหน มันอยู่ในตัวของเราอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะมีเทคนิควิธีการในการดึงมันขึ้นมาใช้ได้อย่างไร
สำหรับเทคนิคที่แนะนำไปนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ผู้อ่านหลายท่านอาจจะมีเทคนิคเฉพาะของตัวเองอีกหลายวิธี
ขอให้ลองฝึกดึงพลังภายในโดยการสร้างกำลังใจให้กับตัวเองบ่อยๆ รับรองได้ว่าชีวิตนี้ไม่มีวันหมด
“กำลังใจ” อย่างแน่นอน
ที่มา :
www.peoplevalue.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แบ่งปันเพิ่มเติม